สิทธิบัตร หมายถึง สิทธิพิเศษที่กฎหมายบัญญัติให้แก่เฉพาะเจ้าของสิทธิบัตร หรือที่เรียกว่า “ผู้ทรงสิทธิบัตร” เพื่อปกป้องการประดิษฐ์หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ โดยเป็นสิทธิผูกขาดสำหรับผู้ทรงสิทธิบัตรที่จะสามารถกันมิให้บุคคลอื่นนำการประดิษฐ์ หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ของตนไปแสวงหาประโยชน์ รวมทั้งให้ผู้ทรงสิทธิบัตรมีสิทธิเด็ดขาดแต่เพียงผู้เดียวในการแสวงหาประโยชน์จากการประดิษฐ์หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ได้รับสิทธิบัตรนั้นภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ส่งเสริมให้มีการสร้างสรรค์เพิ่มขึ้น และกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ต่อไป อันเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและเป็นที่ยอมรับของสาธารณชน
สิทธิบัตรแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ สิทธิบัตรการประดิษฐ์ และสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ โดย “สิทธิบัตรการประดิษฐ์” จะให้ความคุ้มครองการคิดค้นเกี่ยวกับลักษณะองค์ประกอบ โครงสร้าง หรือกลไกของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งกรรมวิธีในการผลิต การเก็บรักษา หรือการปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น หรือทำให้เกิด ผลิตภัณฑ์ขึ้นใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม ในขณะที่ “สิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์” จะให้ความคุ้มครองความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับรูปร่าง ลักษณะภายนอกของผลิตภัณฑ์ที่ แตกต่างไปจากเดิม รวมทั้งองค์ประกอบของลวดลายหรือสีของผลิตภัณฑ์
สิทธิบัตรการประดิษฐ์ คืออะไร
สิทธิบัตรการประดิษฐ์ กฎหมายให้คำนิยามของ “การประดิษฐ์” ว่า หมายถึง การคิดค้นหรือคิดทำขึ้นอันเป็นผลให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์หรือกรรมวิธีใดขึ้นใหม่ หรือการกระทำใดๆ ที่ทำให้ดีขึ้น ซึ่งผลิตภัณฑ์หรือกรรมวิธี และ “กรรมวิธี” หมายถึง วิธีการ กระบวนการ หรือกรรมวิธี ในการผลิต หรือการเก็บรักษาให้คงสภาพหรือให้มีคุณภาพดีขึ้น หรือการปรับสภาพให้ดีขึ้น ซึ่งผลิตภัณฑ์ และรวมถึงการใช้กรรมวิธีนั้นด้วย
สิ่งที่จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายสิทธิบัตรในส่วนของการประดิษฐ์ ต้องเข้าเงื่อนไข 3 ข้อ ดังต่อไปนี้
- เป็นการประดิษฐ์ขึ้นใหม่ หมายความว่า ต้องเป็นการประดิษฐ์ที่แตกต่างไปจากเดิม ไม่เป็นที่รู้จัก ไม่เคยมีใช้แพร่หลาย ไม่เคยมีจำหน่าย หรือยังไม่เคยได้รับสิทธิบัตรมาก่อน และยังไม่เคยเปิดเผยสาระสำคัญมาก่อนทั้งในและนอกประเทศ รวมไปถึงการนำสิ่งประดิษฐ์ออกแสดงในงานนิทรรศการต่างๆ
อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีการนำออกแสดง หากเป็นการแสดงที่หน่วยงานของรัฐ เป็นผู้จัดให้มีขึ้นก็ยังสามารถขอรับความคุ้มครองได้ แต่การยื่นคำขอรับสิทธิบัตรจะต้อง ดำเนินการภายใน 12 เดือน นับตั้งแต่นำงานนั้นออกแสดง และสำหรับกรณีที่เคยยื่นขอรับสิทธิบัตรไว้ในต่างประเทศมาก่อนจะต้องยื่นคำขอ รับสิทธิบัตรในประเทศไทยไม่เกิน 12 เดือน นับตั้งแต่วันที่ได้ยื่นขอรับสิทธิบัตรครั้งแรกใน ต่างประเทศ ทั้งนี้ สามารถที่จะขอให้ระบุว่าวันที่ได้ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรในต่างประเทศ ครั้งแรกเป็นวันที่ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรในประเทศก็ได้ - เป็นการประดิษฐ์ที่มีขั้นการประดิษฐ์สูงขึ้น หมายความว่า ต้องแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างเพียงพอในแง่ของความใหม่ล่าสุดก่อนที่จะมีการผลิต มีลักษณะที่เป็นการแก้ไขปัญหา ทางเทคนิคของสิ่งประดิษฐ์ประเภทเดียวกันที่มีมาก่อน และไม่เป็นการประดิษฐ์ที่อาจทำได้โดยง่ายโดยผู้ที่มีความรู้ในระดับธรรมดาสามัญในสาขาวิชาการด้านนั้นๆ
- เป็นการประดิษฐ์ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในทางอุตสาหกรรม เกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรือหัตถกรรมได้ คือ สิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวจะต้องสามารถ ผลิตได้จริงหรือนำไปใช้ประโยชน์ในทางอุตสาหกรรม เกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรือ หัตถกรรมได้ ไม่ว่าจะในรูปของเครื่องมือหรืออุปกรณ์ของผลิตภัณฑ์
- จุลชีพและส่วนประกอบส่วนใดส่วนหนึ่งของจุลชีพที่มีอยู่ตามธรรมชาติ
- กฎเกณฑ์และทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
- ระบบข้อมูลสำหรับการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์
- การวินิจฉัย บำบัด หรือรักษาโรคมนุษย์หรือสัตว์
- การประดิษฐ์ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดี อนามัยหรือ สวัสดิภาพของประชาชน
อนุสิทธิบัตร คืออะไร
อนุสิทธิบัตร จะให้ความคุ้มครองเฉพาะการประดิษฐ์เท่านั้น โดยการประดิษฐ์ ที่จะได้รับความคุ้มครองนั้นจะเป็นการประดิษฐ์ง่ายๆ มีขั้นตอนการประดิษฐ์ที่ไม่สูงมากนัก หรือเป็นการประดิษฐ์ที่ปรับปรุงสิ่งประดิษฐ์เดิมที่มีอยู่แล้วให้มีประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น โดยอนุสิทธิบัตรนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้สร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ได้รับความคุ้มครอง ในสิ่งที่สร้างสรรค์นั้นโดยไม่จำเป็นต้องผ่านเกณฑ์ที่เข้มงวดเช่นเดียวกับสิทธิบัตร และสิทธิ ซึ่งเจ้าของอนุสิทธิบัตรได้รับก็มีลักษณะเช่นเดียวกันกับที่ให้แก่เจ้าของสิทธิบัตร
อนุสิทธิบัตรไม่จำเป็นต้อง มีขั้นการประดิษฐ์ที่สูงนัก โดยเป็นเพียงการปรับปรุงสิ่งประดิษฐ์ที่มีอยู่แล้วให้ใช้งานได้ดีขึ้น หรือมีประโยชน์ใช้สอยมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น การประดิษฐ์ที่สามารถขอรับอนุสิทธิบัตรได้ จึงประกอบด้วยเงื่อนไขเพียง 2 ข้อ ได้แก่
- เป็นการประดิษฐ์ขึ้นใหม่ โดยมีหลักการเช่นเดียวกันกับสิทธิบัตรการประดิษฐ์
- เป็นการประดิษฐ์ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในทางอุตสาหกรรม เกษตรกรรม พาณิชยกรรม หรือหัตถกรรมได้เช่นเดียวกันกับสิทธิบัตรการประดิษฐ์
อายุความคุ้มครองสิทธิบัตรอนุสิทธิบัตร
- สิทธิบัตรการประดิษฐ์ มีอายุ 20 ปี นับตั้งแต่วันยื่นขอรับสิทธิบัตร และไม่สามารถต่ออายุการคุ้มครองได้
- อนุสิทธิบัตร มีอายุ 6 ปี นับตั้งแต่วันยื่นขอรับอนุสิทธิบัตร ต่ออายุได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 2 ปี (รวมเป็น 10 ปี)
เอกสารการขอยื่นรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์และอนุสิทธิบัตร
- แบบพิมพ์คำขอ (สป/สผ/อสป/001-ก)
- รายละเอียดการประดิษฐ์
- ข้อถือสิทธิ
- บทสรุปการประดิษฐ์
- รูปเขียน (ถ้ามี)
เอกสารประกอบการยื่นคำขอ
กรณีที่ เจ้าของเป็นผู้ประดิษฐ์
– สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (เจ้าของ)
– แบบฟอร์ม สป/สผ/อปส/001-ก(พ)
– คำรับรองเกี่ยวกับสิทธิขอรับสิทธิบัตร
กรณีที่ เจ้าของไม่ใช่ผู้ประดิษฐ์
– สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (เจ้าของ)
– หนังสือสัญญาโอน
– สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (ผู้ประดิษฐ์)
– สำเนาหนังสือรับรองนิติบุคคลที่ออกให้ไม่เกิน 6 เดือน (นิติบุคคล)
– สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการ (บุคคลธรรมดา)
– หนังสือสัญญาโอน
– สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (ผู้ประดิษฐ์)
** ในกรณีมอบอำนาจแต่งตั้งตัวแทน ใช้หนังสือมอบอาจ (ตัวจะต้องเป็นบุคคลที่มีบัตรตัวแทนสิทธิบัตร เท่านั้น)
การขอแปลงคำขอระหว่างสิทธิบัตรการประดิษฐ์และอนุสิทธิบัตร
เนื่องจากการคุ้มครองสิทธิบัตรการประดิษฐ์และอนุสิทธิบัตรมีความคล้ายกัน โดยเป็นการคุ้มครอง “การประดิษฐ์” ทั้งคู่ ดังนั้น ผู้ประดิษฐ์ต้องเลือกขอรับความคุ้มครอง สิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น จะขอความคุ้มครองทั้งสองอย่างพร้อมกันไม่ได้ ในกรณีที่มีการยื่นขอรับความคุ้มครองอย่างใดอย่างหนึ่งไว้แล้ว หากภายหลังผู้ขอประสงค์จะขอรับความคุ้มครองอีกอย่างหนึ่งก็สามารถขอแปลงคำขอจากสิทธิบัตรการประดิษฐ์เป็นอนุสิทธิบัตรได้ แต่จะต้องดำเนินการก่อนการประกาศโฆษณาตามขั้นตอนการขอรับสิทธิบัตร และในทางกลับกันหากประสงค์จะขอแปลงคำขอจากอนุสิทธิบัตรเป็นสิทธิบัตรการประดิษฐ์ก็สามารถกระทำได้ แต่จะต้องดำเนินการก่อนการรับจดทะเบียนและออกอนุสิทธิบัตรตามขั้นตอนการขอรับอนุสิทธิบัตร โดยไม่จำเป็นต้องยื่นคำขอใหม่ เพียงแต่ยื่นคำขอแปลงประเภทของสิทธิ และเอกสารคำขอรับสิทธิบัตร หรืออนุสิทธิบัตรที่ได้เคยยื่นไว้ก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งชำระค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม แต่กรณี ที่ได้ชำระไว้เกินจะไม่มีสิทธิได้รับคืน
ค่าธรรมเนียม
- ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ 500 บาท
- ยื่นคำขอรับอนุสิทธิบัตร 250 บาท
- ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรออกแบบ 250 บาท
- คำขอแก้ไขเพิ่มเติม 50 บาท
- การประกาศโฆษณาคำขอรับสิทธิบัตร 250 บาท
- รับจดทะเบียนและประกาศโฆษณาอนุสิทธิบัตร 500 บาท
- คำขอให้ตรวจสอบการประดิษฐ์ (กรณีการประดิษฐ์) 250 บาท
- รับจดทะเบียนและออกสิทธิบัตร 500 บาท
- คำคัดค้าน 250 บาท
- คำอุทธรณ์ 500 บาท
- คำขอเปลี่ยนแปลงประเภทของสิทธิ 100 บาท
- ปีที่ 5 1,000 บาท
- ปีที่ 6 1,200 บาท
- ปีที่ 7 1,600 บาท
- ปีที่ 8 2,200 บาท
- ปีที่ 9 3,000 บาท
- ปีที่ 10 4,000 บาท
- ปีที่ 11 5,200 บาท
- ปีที่ 12 6,600 บาท
- ปีที่ 13 8,200 บาท
- ปีที่ 14 10,000 บาท
- ปีที่ 15 12,000 บาท
- ปีที่ 16 14,200 บาท
- ปีที่ 17 16,600 บาท
- ปีที่ 18 19,200 บาท
- ปีที่ 19 22,000 บาท
- ปีที่ 20 25,000 บาท
หรือชำระทั้งหมดในการชำระค่าธรรมเนียมรายปีครั้งแรก 140,000 บาท
- ปีที่ 5 750 บาท
- ปีที่ 6 1,500 บาท
หรือชำระทั้งหมดในการชำระค่าธรรมเนียมรายปีครั้งแรก 2,000 บาท
- ครั้งที่ 1 6,000 บาท
- ครั้งที่ 2 9,000 บาท